วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

อาการปวดเข่่า

การใช้ชีวิตของคนในทุกวันนี้ต้องเร่งรีบและแข่งกับเวลา ในความเร่งรีบจึงทำให้เราใช้ร่างกายอย่างหักโหมจนลืมสังเกตอาการผิดปกติต่างๆของร่างกาย จนเป็นสาเหตุของโรคต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น อาการปวดเข่า คนเรามักไม่ค่อยใส่ใจหัวเข่าเท่าใดนักตราบเท่าที่มันยังทำงานปกติอยู่แต่เมื่อเกิดอาการปวดจึงตระหนักว่าหัวเข่านั้นมีความสำคัญ
เพื่อตัดปัญหาอาการปวดหัวเข่าเรื้อรังผู้ที่ปวดเข่าจึงต้องบริหารหัวเข่า
ท่าบริหารเข่า
  • ช่วยให้เข่าเคลื่อนไหวงอ - เหยียดได้เต็มที่
  • ช่วยให้กร้ามเนื้อรอบขาแข็งแรงและทนทาน
ควรทำโดย

  • เริ่มจากง่ายแล้วพัฒนาไปสู่ท่าที่ยากขึ้น
  • ทำหลังทุเลาปวด หากมีอาการขณะบริหารควรหยุดทำท่านั้นก่อน
  • ทำสม่ำเสมอทุกวัน อย่างน้อยวันละ 30 - 50 ครั้ง
  • ผู้ที่ไม่เคยปวดเข่าทำได้ทุกท่า โดยเน้นท่าที่มีแรงต้านมากๆ
  1. ท่านอนเหยียดเข่า

เป็นท่าบริหาีรกล้ามเนื้อหน้าขา


นอนหงายแล้วใช้หมอนใบเล็กๆหนุนไว้ใต้เข่าให้เข่างอเล็กน้อย เหยียดเข่าให้ตึงที่สุดเกร็งไว้ 10 วินาที ท่านี้เหมาะกับคนที่ปวดและมีอาการอักเสบของหัวเข่า
เมื่อทุเลาปวดแล้วใช้หมอนรองให้เข่างอมากขึ้นหีอเปลี่ยนมานั่งบนเก้าอี้แล้วเหยียดเข่าให้ตรง
อาจใช้ถุงทรายหรือน้ำหนักถ่วงเพิ่มบริเวรข้อเท้าเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อให้มามกขึ้น
2.นอนคว่ำงอเข่า
เป็นท่าบริหารกล้ามเนื้อหลังขา ให้นอนคว่ำแล้วงอเข่าข้างที่เคยปวดหรืองอไม่ได้ให้งอเข้ามาให้มากที่สุด เกร็งไว้ 10 วินาทีแล้วเหยียดออก
ใช้ถุงทรายถ่วงเพิ่มน้ำหนักแรงต้านที่ข้อเท้าด้วยเช่นกัน
3.ท่าย่อตัวลงนั่ง
ยืนหันหลังให้ขาชิดขอบเก้าอี้หรือฝาผนัง ค่อยๆย่อเข่าทั้งสองลงนั่ง แล้วค่อยๆลุกขึ้นยืน ทำช้าๆหรืออาจหยุดเกร็งค้างไว้ที่ช่วงใดช่วงหนึ่ง เมื่อทำได้ดีแล้วให้เปลี่ยนเก้าอี้ให้เตี้ยลงเรือยๆ
สาเหตุ อาการ และการรักษา
1.ข้อแพลง เอ็นข้อเท้าฉีกขาด
จากอุบัติเหตุ การหกล้มถูกกระแทกจะเจ็บปวดขึ้นทันที หลังบาดเจ็บอาจมีอาการบวมแดงหรือช้ำเขียวร่วมด้วย การรักษา ประคบด้วยความเย็นประมาณ 15 นาที ใน 1 - 3วันแรก กินยาแก้ปวดแล้วค่อยๆออกกำลังกายข้อเข่า
2.ข้อเข่าเสื่อม
มักจะพบในหญิงวัยกลางคน ในระยะแรกจะปวดเฉพาะเวลานั่งยองๆและลุกขึ้น หรือขณะก้าวลงบันได ต่อมาจะปวดมากขึ้นและเกิดเสียงกุบกับเวลาเคลื่อนไหวผู้ที่เป็น"เรื้อรัง"จะมีอาการเข่าบวมและผิดรูปได้ 
การรักษา ประคบด้วยความร้อน 10 - 15 นาที กินยาแก้ปวดเมื่อปวดมากๆ
ที่สำคัญ ต้องบริหารข้อเข่าเพื่อให้กล้ามเนื้อมีกำลังมากขึ้นอยู่เสมอ และพยายามลดน้ำหนักในรายที่อ้วน


ข้อมูลจาก : โรงพยาบาลมิชชั่น,แผนกกายภาพบำบัด
                    430 ถ.พิษณุโลก เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300


ขายส่งสินค้าอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ราคาถูก จาก OKER
     สนใจคลิกเลย https://sites.google.com/site/saleoker/

วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การดูแลกระดูกสันหลังให้แข็งแรง

พูดถึงกระดูกสันหลังแล้วคงมีหลายคนที่มีอาการปวดหลังอยู่บ่อยๆ อาการปวดนี้นับเป็นสาเหตุหนึ่งที่บั่นทอนสุขภาพ และสร้างความทุกข์ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้
       ดร.โจเซฟ ซูเร็ตต์ ไคโรเพรคเตอร์ ชาวสหรัฐอเมริกา ประจำสถาบันพัฒนาโครงสร้างดีสปายร์ บอกว่ากระดูกสันหลังของคนเรานั้นมี 33 ชิ้น แบ่งเป็น 5 ส่วน หากส่วนหนึ่งส่วนใดบิดตัว หรือคลาดเคลื่อน ก็จะเกิดอาการปวดต่างๆ ไม่ว่าจะ ปวดคอ ปวดเอว ปวดหลังหรือปวดไหล่ และต้องได้รับการรักษาแต่หากมีการป้องเพื่อให้กระดูกสันหลังแข็งแรงคงจะดีที่สุด
     การป้องกันและดูแลรักษาทำได้โดย
การเปลี่ยนท่านอน ซึ่งท่านอนที่ดีที่สุดคือ ท่านอนหงาย เพราะมีการรองรับกระดูกสันหลังได้เป็นอย่างดี ไม่ควรที่จะนอนคว่ำเพราะจะต้องหันหน้าออกไปทางด้านข้าง จะทำให้กระดูกสันหลังบริเวณคอเกิดอาการตึง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการล๊อค หรือ คอตกหมอนได้ และจะทำให้ข้อเสื่อมเร็ว


การนั่ง ควรนั่งบนเก้าอี้ที่มีพนักพิงด้านหลัง เวลานั่งหลังต้องตรง ข้อศอกตั้งฉาก 90 องศา เท้าสัมผัสกับพื้นลุกขึ้นเดินเพื่อผ่อนคลายบ่อยๆ 
การยกของ การยกของแต่ละครั้งหากของมีน้ำหนักมากควรให้หลัตั้งฉากกับพื้น ไม่ควรก้มลงยกอาจทำให้ปวดหลังได้ยกตะโพกและงอเข่าช่วยทุกครั้งที่ยกของหนัก
การกินอาหาร ควรกินอาหารที่มี Probotice และ Prebiotice จะช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุบางชนิดที่จำเป็นและมีความสำคัญกับกระดูกได้ดี าหารที่มี  Probotice คือ หัวหอม กล้วย กระเทียม หน่อไม้ผรั่ง มะเขือเทศ ข้าวสาลี น้ำผึ้ง
ส่วน Prebiotice พบมากใน นมเปรี้ยว โยเกิร์ต 
นอกจากนี้ ควรได้รับแสงแดดในตอนเช้าก็ยังมีวิตตามินดี ที่จะช่วยเสริมสร้างกระดูก ดื่มน้ำสะอาดและออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน ควรบริหารกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกายเสมอเพื่อป้องกันกล้ามเนื้อฉีกขาด เท่านี้กระดูกของเราก็จะแข็งแรงและมีอายุยืนยาว


อ้างอิง- หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์


ขายส่งสินค้าอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ราคาถูก จาก OKER
     สนใจคลิกเลย https://sites.google.com/site/saleoker/

วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Do you know. In apples have anti-cancer.

In apples, it contains "FLAVONOIDS" very high, and has served as a detoxification.Prevents molecules or free radicals to prevent damage to tissues.
Polish scientists found. If you eat an apple a day results. . To prevent the colon andrectum cancer is.
Journal of "the cancer of Europe," said the researchers studied patients with cancertype. Eating apples daily 9.5 units per week for a while. It appears that the disease can progress to a minimum. Patient to eat an apple a day a child will stay in a rate of 0.65part to eat more, the danger of the disease. Is reduced by about half.

They believe in the protection of it. Constant of containing high FLAVONOIDS . Itacts as a detoxification. There are very rich in the bark of the appleMolecules orradicals to help prevent tissue damageIt also inhibits the initial symptoms of the disease. With the rapid propagation and growth of cells.
The researchers also suggest that Since antioxidants are combined by the shell. Than in meat up to 5 times, so it should not be peeled. Rinse thoroughly, one is enough.


Source: Thai Rath newspaper.


ขายส่งสินค้าอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ราคาถูก จาก OKER
     สนใจคลิกเลย https://sites.google.com/site/saleoker/

วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554

แม่ผู้ยิ่งใหญ่

ในชีวิตของคนทุกคน ที่เกิดมานั้นต้องมีแม่ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่ อำเภอชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
เป็นเรื่องราวที่จะบอกถึงความรักที่แม่มีต่อลูกว่ายิ่งใหญ่เพียงไร ผมจะเล่าให้ฟังคับ
เมื่อประมาณ 7 ปีที่ผ่านมาเกิดน้ำท่วมหนัก แต่จะมาหนักมากตรงบริเวณที่บ้านผมตั้งอยู่นะ ส่วนบริเวณที่โรงเรียนผมตั้งอยู่นั้นก็ อยู่ในที่สูงโรงเรียนก็ยังเปิดสอนปกติได้ ซึ่งแน่นอนเด็กทุกคนต้องไปโรงเรียน รวมทั้งผมเองและน้องสาวผมด้วย วันนั้นฝนเองก็ยังตกหนัก แม่ก็เอาเรือที่คุณตาเก็บเอาไว้ใช้ในเวลาน้ำท่วม พายออกมาส่งผมกับน้องสาว เพื่อไปโรงเรียนตามปกติ "คงต้องใช้เรือไปจนกว่าน้ำจะลด" ผมมองไปดูแม่ตอนที่พายเรือ แม่คงต้องสู้กับความเชี่ยวของน้ำอย่างมาก และแม่คงต้องปวดแขนหน้าดู แต่แม่ก็พายไปส่งผมกับน้องสาวได้ จนผมได้เข้าห้องเรียน พอถึงเวลาเที่ยงแม่ก็ต้องเอาข้าวกล่องมาให้ผมกับน้อง ซึ่งเมื่อตอนเช้าทำกับข้าวไม่ทันเพราะแม่ต้องออกไปจับปลาที่เอา "กัด" ไปดักปลาไว้ 
เวลาใกล้เที่ยงผมก็เห็นแม่เดินมาในโรงเรียน เนื้อตัวเปียกไปหมด ผมเลยถามแม่ว่า"ทำไมแม่ตัวเปียกหมดละ"
แม่ตอบผมว่า "ตาเอาเรือไปบ้านผู่ใหญ่บ้าน แม่เลยเดินลุยน้ำมา" 
เท่านั้นและผมน้ำตาไหลเลย เพราะน้ำนั้นเชื่ยวมาก และลึกประมาณอก ถ้าแม่เดินบุกน้ำมานั้นก็หมายถึงแม่ต้องเดินชูปิ่นโตเพื่อไม่ให้น้ำเข้า ระยะทางก็ประมาณ เกื่อบ 3 กิโล ถ้าวันนั้นแม่สู้แรงน้าไม่ไหวละอะไรจะเกิดขึ้น ผมคงต้องสูญเสียแม่ไปแน่
นี่แหละครับความรักของแม่ เรื่องที่ผมเล่าอาจจะไม่ซึ้งมากมาย แต่ผมคิดว่าคุณคงรับรู้ได้ถึงความรักของแม่ที่ยอมเสี่ยงตายได้ เพียงแค่ให้ลูกได้กิน ผมคิดว่าคำว่า "แม่" นั้นยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดในโลก